วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การทำงานของออยซีล(Oil Seal)

    จะถูกประกอบอยู่ในชิ้นส่วนเครื่องจักรกลที่เป็นจุดสัมผัสเคลื่อนที่ 
โดยการสวมเข้ากับเพลาให้ยางขอบซีลหลัก(Elastomeric Sealing) 
สัมผัสกับเพลา และโครงซีล(Metal Case)ยึดติดแน่นกับเฮ้าซิ่ง(Housing)
ซึ่งออยซีล(Oil Seal) จะปิดกันน้ำมัน, จารบี, สารหล่อลื่น ฯ ที่อยู่ระหว่าง
ตลับลูกปืนกับออยซีล(Oil Seal)  กันไม่ให้รั่วไหลออกด้านนอก และป้องกันฝุ่นผง,
สิ่งสกปรก,น้ำ ฯ ไม่ให้เข้าสู่ภายในด้วยเช่นกันเครื่องจักรกลหรือกลไกต้องการ
ให้เกิดการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งอายุการทำงานที่ใช้ยาวนาน
อย่างเหมาะสม ออยซีล(Oil Seal)จะสัมผัสกับเพลาตลอดเวลาทั้งขณะที่
เพลาหยุดนิ่งและเพลาหมุนฉะนั้น หากมีการรั่วซึมของน้ำมันหรือสารหล่อลื่นอื่นๆ
 รวมทั้งฝุ่นสิ่งสกปรกเข้าไปได้ จะทำให้เครื่องจักรสะดุดเดินไม่เรียบ เสียหายก่อน
ถึงเวลาอันควร จึงจำเป็นต้องมีออยซีล(Oil Seal) เพื่อช่วยลดปัญหาดังกล่าว..
วัสดุที่ใช้ผลิตเป็นส่วนประกอบออยซีล(Oil Seal Material)

1.ยางขอบซีลหลัก (Elastomeric Sealing Material)
วัสดุที่นำมาผลิตใช้ผลิตยางขอบซีลหลัก(Sealing Material)ในออยซีล
(Oil Seal)จะมีการใช้อยูด้วยกันหลายชนิดแต่ที่นิยมใช้กันมากในชิ้นส่วน
เครื่องจักรกลทั่วๆไป ก็มีไม่กี่ชนิด ส่วนชนิดที่ต้องการความพิเศษมากๆก็
จะถูกผลิตและนำไปใช้เฉพาะทาง(Special List) เท่านั้นแต่ราคาก็จะสูงไป
ด้วยเช่นกัน  วัสดุที่นิยมกันพอสรุปได้ดังนี้ ..

    NBR ความต้านทานต่อน้ำมันและความร้อนระดับหนึ่งในช่วงอุณหภูมิ 
-40 °C ถึง 120 °C (oil) หรือ 90°C(water) ขณะเดียวกันยังมีความยืดหยุ่น
และมีความต้านทานต่อแรงกดบีบอัด ยางไนไตรยังมีคุณสมบัติเชิงกลที่
ดีกว่าเมื่อเทียบกับยางชนิดอื่น ๆ และมีความต้านทานการสึกหรอสูง จึงนิยมใช้กันมาก

    EPDM กันรั่วซึมในของเหลวไฮดรอลิคส์ และในระบบเบรก
  มีช่วงอุณหภูมิการทำงานในวงกว้าง  -65 °F ถึง 300 °F (-55 °C ถึง150 °C)
 นอกจากนี้นี้ยังใช้ในการอบไอน้ำและอุณหภูมิที่ต่ำกว่าการใช้งาน
  ที่อุณหภูมิปรกติด้วย

   SILICONE สภาวะความเย็นได้ดีที่ -75 °F (-59 °C) เมื่อเทียบกับซิลิโคน
 มีช่วงอุณหภูมิที่กว้างที่ในช่วงอุณหมูมิ 350 °F(180°C)ถึง 100 °F(38°C) 
ซึ่งใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับงานแรงดันต่ำในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง 
และสภาพอากาศที่เย็นจัดๆ ได้เป็นอย่างดี

  2.โครงซีล (Metal Case Material)โครงซีลเหล็ก(Steel Case )
เป็นโครงซีลที่ผลิตจากเหล็กรีดเย็น เพื่อความแข็งแรงของโครงซีล
และให้ความคงทนต่อการใช้งาน โดยทั่วไปออยซีล(Oil Seal)
จะใช้โครงเหล็กสำหรับงานในเครื่องจักรทั่วไปที่ใช้ในสภาพสิ่งแวดล้อมปรกติ
 
  3.สปิงกด(Garter Spring)สปริงกดจะทำหน้าที่ในการเพิ่มแรงกด
ในแนวรัศมีของเพลาเพิ่มความสามารถของยางขอบซีลหลักให้ป้องกัน
การรั่วซึมของน้ำมัน หรือสารหลอลื่นอื่นๆ สปริงกด(Garter Spring)
จะผลิตมาจากลวดปริงตามมาตรฐานที่กำหนดให้มีความสัมพันธ์กับ
ขนาดของเพลาและแรงในแนวรัศมีที่ต้องการกดยางขอบซีลหลัก 
ชนิดของการออกแบบ


 
 
 
 
 
ออยซีล type A
เป็นซีลที่มีของเหล็ก 2 ชั้น ส่วนมากใช้กับแกนที่มีขนาดใหญ่กว่า 150 มม. หรือกับแกนขนาดเล็กที่ต้องการความแข็งแรงมาก เช่น
-      SA : ลิฟเดียวสปริงหนึ่งอันใช้ในสภาพแวดล้อมทีมีแรงดันต่ำและไม่มีฝุ่นมีขอบเหล็ก 2 ชั้น
-      TA : ลิฟคู่มีสปริงลิฟซีลตัวหลักทำหน้าที่ซีลของเหลวด้านในลิฟด้านนอกทำหน้าที่กันฝุ่น ซีลที่มีขอบเหล็ก 2 ชั้น
-      VA : ลิฟเดี่ยวไม่มีสปริง ลิฟซีลทำหน้าที่ซีลของเหลวด้านใน เหมาะสำหรับใช้กันการรั่วซึมของจารบี มีขอบเหล็ก 2 ชั้น
ออยซีล type B
เป็นซีลที่มีขอบเหล็กด้านนอกเป็นเหล็กออกแบบโดยด้านหน้ามีมุมเพื่อความง่ายต่อการสวมใส่ เช่น
-      SB : ลิฟเดี่ยวสปริงหนึ่งอัน ขอบด้านนอกเป็นเหล็กมีสปริงลิฟซีลทำหน้าที่ซีลของเหลวด้านใน
-      TB : ลิฟคู่มีสปริงลิฟซีลตัวหลักทำหน้าที่ซีลของเหลวด้านใน ลิฟด้านนอกทำหน้าที่กันฝุ่น
-      VB : ลิฟเดี่ยว ไม่มีสปริงลิฟซีลทำหน้าที่ซีลของเหลวด้านในเหมาะสำหรับใช้กันการรั่วซึมของจารบี
ออยซีล type C
เป็นซีลขอบมียางหุ้มเหล็ก ยางมีหน้าที่ช่วยป้องกันการเกิดสนิมและผุกร่อนของตัวซีล เช่น
-      SC : ลิฟเดี่ยวสปริงของมียางหุ้มเหล็ก
-      TC : ลิฟคู่มีสปริงของมียางหุ้มเหล็ก ลิฟซีลตัวหลักทำหน้าที่ซีลของเหลวด้านใน ลิฟด้านนอกทำหน้าที่กันฝุ่น
-      VC : ลิฟเดี่ยวไม่มีสปริงลิฟซีลทำหน้าที่ซีลของเหลวด้านในเหมาะสำหรับใช้กันการรั่วซึมของจารบี ขอบมียางหุ้มเหล็ก 
 
 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น